Thursday, March 15, 2007

อะไหล่

อะไหล่ กับอู่ซ่อมรถยนต์นั้นเป็นของคู่กัน ไม่ว่าจะเป็นอู่ประเภทไหน อู่เคาะ-พ่นสีรถยนต์ ก็เช่นกัน ที่มีความจำเป็นจะต้องเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องอะไหล่มากที่สุดก็ว่าได้ เมื่อรถยนต์เกิดอุบัติเหตุ ไม่ได้แปลว่าจะต้องเกิดความเสียหายเฉพาะ ชิ้นส่วนที่เป็นตัวถังเท่านั้น อาจเสียหายไปถึงเครื่องยนต์ ช่วงล่าง ระบบไฟฟ้าภายในรถยนต์ ดังนั้น จึงมีความจำเป็นมากที่จะต้องเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่อง อะไหล่


  • อะไหล่ จะแบ่งออกเป็นสองประเภทใหญ่ๆ ตามแหล่งผลิต คือ อะไหล่แท้ (Genuine Part) และ อะไหล่เทียมเลียนแบบ ถ้าคุณได้สัมผัสไปนานๆ จะทราบได้โดยอัตโนมัติ ว่าอันไหนแท้หรือว่าเทียม โดยสังเกตได้ตั้งแต่ package ไปจนถึงจุดสังเกตบนตัวชิ้นส่วนอะไหล่ ความละเอียดของชิ้นงาน อู่โดยทั่วไปจะต้องให้ลูกค้าเลือกว่าจะใช้ อะไหล่แท้หรือเทียม
    ถ้าเป็นอะไหล่ชิ้นส่วนตัวถัง เช่นไฟหน้า ไฟมุม ไฟท้าย ควรจะเป็นของแท้ เพราะหากใช้ของเทียม จะเป็นฝ้าเร็ว เพราะพลาสคิดคุณภาพต่ำกว่ามาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์เก่าหรือว่าใหม่ควรเลือกใช้ของแท้เอาไว้ก่อน หรือ ชิ้นส่วนตัวถังอื่นๆ เช่น ฝากระโปรงหน้า บังโคลน กันชน ชิ้นส่วนเหล่านี้ ควรพิจารณาเลือกใช้ของแท้เช่นกัน เพราะ mold ที่ใช้จะเป็นอันเดียวกับที่ใช้ในการผลิต เมื่อนำมาประกอบลองในระหว่างการเคาะ จะมีความเที่ยงตรงและแม่นยำ เท่ากับของเดิมมากกว่าอะไหล่เทียม แต่ถ้าหากเป็นรถยนต์ที่เก่าแล้ว หรือว่างบประมาณมีจำกัด จะเลือกใช้ ของเทียมก็ได้ แต่ช่างเคาะจะต้องฝีมือหน่อยในการปรับแต่งให้เข้ารูป

    แต่ไม่ว่าจะเป็นอะไหล่แท้หรือว่าเทียม ในการรับมอบสินค้า จะต้องตรวจสอบให้ละเอียด ว่ามีส่วนใดแตกหัก บุบสลายหรือไม่ ถ้าเป็นอะไหล่ที่เป็นฝากระโปรง บังโคลน ฯ มักจะบุบนิดๆหน่อยๆ แต่ถ้าบุบมากนี่ก็ไม่ไหวเหมือนกัน ต้องเปลี่ยนให้เรา หรือถ้าเป็นไฟหน้า ไฟมุม ฯ จะต้องดูโคมเสื้อไฟให้ดี เพราะอาจจะร้าว หรือว่า ขาหัก ชิ้นส่วนตัวถังที่เป็นพลาสติค จะต้องดูเนื้อพลาสติคให้ดี เพราะอาจจะมาไม่เหมือนของแท้ บางทีจะเป็นเนื้อเรียบมัน บางทีจะเป็นเม็ด ก็จะต้องเปลี่ยนยี่ห้อ ให้ตรงกับของแท้มากที่สุด

    ในส่วนที่เป็นอะไหล่เครื่อง หรือช่วงล่าง ทางอู่จะต้องให้คำแนะนำกับลูกค้าได้ว่า ชิ้นส่วนใดจำเป็นที่จะต้องใช้ของแท้ ที่มีความสำคัญๆ และต้องใช้งานหนัก เช่น ลูกหมากต่างๆ ปีกนก ฯ ชิ้นส่วนพวกนี้ควรต้องใช้ของแท้ไว้ก่อน หรือใช้ของเทียมที่เกรดดีหน่อย ถ้าจำเป็นเพราะงบจำกัด ชิ้นส่วนอื่นๆอาจพิจารณาไปตามความจำเป็น เช่น หม้อน้ำ ผ้าเบรค ฯ

  • อะไหล่เก่า มือสอง อะไหล่ชนิดนี้ได้รับความนิยมมาก เพราะบางทีลูกค้าอยากใช้ของแท้แต่ว่า งบฯไม่ถึง อะไหล่มือสอง ก็เป็น อีกทางเลือกหนึ่ง แหล่งซื้อใหญ่ๆ จะอยู่ที่ เซียงกงบรรทัดทอง บางนา หลักสี่ และมีที่กระจัดกระจายกันไปทั่วกรุงเทพ ต้องเสาะแสวงหากันดู
    ในส่วนของอะไหล่เครื่อง จะต้องพิถีพิถันกันหน่อย เพราะ เคยผ่านการใช้งานมาแล้ว ช่างจะสามารถบอกได้ว่า ยังอยู่ในสภาพที่ใช้การได้นาน อยู่หรือไม่ ไม่ใช่ว่า ซื้อมาแล้ว ใช้ได้ไม่นานก็ต้องเปลี่ยนอีก ก็ซื้อของใหม่แท้ใช้ไปเลยไม่ดีกว่าหรือ ?
    กรณีที่ซื้อยกเครื่อง นี่หมดสิทธิ์ตรวจสอบ ถ้าหากเจอของย้อมแมว จำเป็นที่จะต้องอาศัยความเชื่อถือ กับทางร้านเป็นสำคัญ กรณีนี้จะต้องตรวจสอบเอกสาร Invoice ประกอบเครื่องด้วย ถ้าจำเป็นที่จะต้อง แจ้งเปลี่ยนเครื่องกับทางกรมขนส่งฯ

    ในส่วนของอะไหล่ตัวถังก็ง่ายหน่อย สามารถตรวจสภาพภายนอก ว่ายังสวยงาม สมบูรณ์ใช้การได้หรือไม่เท่านั้นก็พอ ที่สำคัญต้องตรวจสอบให้ดี ว่าตรงรุ่นกันหรือไม่ เพราะ มีบางรุ่นผลิตในต่างประเทศ แต่ไม่ผลิตในเมืองไทย บางรุ่นผลิตในเมืองไทย แต่ไม่ผลิตในต่างประเทศ ชิ้นส่วนบางอย่างอาจไม่เหมือนกันได้

    หมายเหตุ ในปัจจุบันนี้ จะมีอะไหล่เก่าประเภท อดีต Taxi หรือว่า อดีตซากรถที่เกิดอุบัติเหตุ ที่พ่อค้ารถยนต์ไปซื้อเหมามาชำแหละอะไหล่ขาย หรือแม้แต่รถขโมยก็มีนะครับ

การสั่งซื้ออะไหล่จำเป็น ที่จะต้องสั่งให้ตรงรุ่น เพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน การเรียกบางทีก็เรียกตามศัพท์ในวงการพ่อค้ารถยนต์ บางทีก็เรียก ตามรหัสตัวถัง ถ้าเป็นชิ้นส่วนเครื่องยนต์ ช่วงล่าง ก็มักจะเรียกตาม รหัสเครื่อง ตัวอย่างเช่น Toyota AE101 วงการรถยนต์จะเรียกว่า "สามห่วง" รหัสเครื่องจะเริ่มต้นด้วย 4A-xxxx หรือ Accord ไฟท้ายก้อนเดียว วางเครื่อง VTEC หรือ BigM หน้าโง่ หน้าลาว อะไรก็ว่ากันไปเป็นต้น

จะเรียกอย่างไรก็ได้ ขอให้เข้าใจตรงกันกับร้านอะไหล่เป็นพอ (การใช้ศัพท์แบบมือใหม่ อาจทำให้ได้อะไหล่ในราคาที่แพงกว่าที่ควรจะเป็น) ดังนั้นควร ดูรายละเอียดของรถยนต์ลูกค้าให้ละเอียด เพราะปัจจุบัน รถยนต์ตัวถังเดียว แต่วางเครื่องหลายรุ่น หรืออาจมีการดัดแปลง รถยนต์มาก่อน อาจทำให้การสั่งอะไหล่สับสน จะทำให้เสียเวลาในการทำงานมาก เช่นถ้าเป็นกรณีที่จะต้องสั่งอะไหล่ ไปทางบริษัทประกันภัย ให้จัดอะไหล่มาให้กับทางอู่ หากผิดพลาด อาจทำให้เสียเวลาไป ถึง 2 อาทิตย์ อู่ที่ซ่อมล่าช้า ก็เพราะปัญหานี้ก็เยอะ แต่้ข้ออ้างที่ใช้ประจำ คือ หาอะไหล่ไม่ได้ ซึ่งกรณีนี้จะมีปัญหาเฉพาะรถยนต์บางยี่ห้อ บางรุ่นเท่านั้น แต่ถ้าเป็นรถตลาด อะไหล่มีเหลือเฟือ (รถยนต์ตลาดที่ขึ้นชื่อลือชาในเรื่องอะไหล่ขาดตลาดมากที่สุดคือ Isuzu)

No comments: