Monday, March 19, 2007

เทคนิคการดูรถยนต์มือสอง

เทคนิคในการเลือกซื้อรถยนต์มือสอง มีวิธีดูหลายรูปแบบ แล้วแต่ความชำนาญของแต่ละคน พ่อค้ารถยนต์เพียงแค่มองเท่านั้น ไม่ต้องเดินไปเคาะๆตัวถัง ก็รู้แล้วว่า ชิ้นไหน ผ่านการทำสีมาแล้วบ้าง

ในเรื่องของเครื่องยนต์ ยากมากที่จะรู้ว่า เครื่องยนต์เคยมีปัญหามาหรือเปล่า เพราะสามารถเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องได้ การดูสีน้ำมันเครื่อง หรือการดมกลิ่นไหม้จากน้ำมันเครื่องจึงไม่ช่วยอะไรมากนัก อาจสังเกตหัวน็อตฝาสูบว่าเคยมีร่องรอยการไขเปิดออก หรือเปล่า แต่ก็ค่อนข้างยากมาก ดังนั้นเรื่องเครื่องนี่ดูลำบาก
การดูเกียร์ออโต้ ว่าแผ่นคลัชหมดสภาพหรือยัง ก็ให้ดึงเบรคมือ เข้าเกียร์ D เร่งเครื่องค้างไว้ที่ 2500 รอบ ถ้ารอบไม่ตกก็เป็นอันว่าใช้ได้

ในส่วนของตัวถัง ให้สังเกตดังนี้

  • ให้ดูที่ ชัสซี ใต้ท้องหากมีการพ่น Body shoot หรือ พ่นกันสนิมสีดำทับ ชัสซี มาสดๆร้อนๆ ก็เป็นอันว่า ลืมรถคันนั้นไปได้เลย แสดงว่าต้องมีการดึง ยืด ชัสซี ด้วยไฟ จำเป็นที่จะต้องพ่นทับ เพื่ออำพราง
  • ดูแนวบริเวณหลังคา โดยยืนจากหน้ารถยนต์หันไปทางด้านท้าย เล็งดูร่องระหว่างหลังคา กับ ขอบประตูด้านหน้า ด้านหลัง เป็นแนวเสมอกันหรือไม่ ถ้าไม่ ก็แสดงว่า เคยคว่ำมาแล้ว ดูทั้งด้านซ้ายและด้านขวา
  • ดูขอบกระจกหน้าและหลัง ว่าคิ้วขอบกระจกเรียบร้อยดีหรือไม่ มีการเผยอหลุดออกมาหรือเปล่า นั่นแสดงว่า กระจกเคยแตกมาก่อน แล้วติดตั้งกระจกไม่เรียบร้อย
  • ดูห้องเครื่อง สังเกตบริเวณ คานรับฝากระโปรงหน้า หรือภายในห้องเครื่อง สีใหม่ผิดปกติหรือเปล่า มีละอองสีมาเกาะติดตามเครื่องหรือไม่ สังเกตดูตามซอกต่างๆ ว่าสีตรงกันกับภายนอกตัวรถหรือไม่ สังเกตดูป้ายทะเบียน ว่าบุบยับหรือเปล่า สังเกตดูว่า แผ่น Plate ซึ่งมักจะติดเอาไว้บริเวณ คานฝากระโปรงหน้า ปกติดีอยู่หรือไม่ มีร่องรอยการแกะออกมาหรือเปล่า มีสีติดอยู่หรือไม่
  • เปิดดูในฝากระโปรงท้าย ดูพื้นรองยางอะไหล่ แผงด้านท้าย บริเวณคานฝากระโปรงท้าย มีร่องรอยการทำสีภายในมาใหม่หรือไม่
  • กรณีที่เป็นรถปิคอัพ ให้ดูภายในกระบะด้วย ว่าสีใหม่ผิดสังเกตหรือเปล่า
  • สังเกตสีภายนอกตัวรถ เม็ดสีที่มาจากโรงงาน หากมองเฉียงเป็นมุม 45 องศา จะเป็นลักษณะเหมือนผิวส้ม สม่ำเสมอ มองดูมุมสะท้อน จะเห็นรอยขนแมว ขีดข่วนบ้างเล็กๆน้อยๆ โดยทั่วไป ส่วนสีภายในห้องเครื่องหรือ ฝากระโปรงท้าย จะมีคราบเหลืองเกาะติด ไม่สะอาดหมดจรดเหมือนกับของใหม่

No comments: