Thursday, April 3, 2008

สีแห้งช้า....

เวลาคุณนำรถไปซ่อมแผลเฉพาะจุด เฉพาะชิ้น หรือว่าพ่นสีใหม่หมดทั้งคัน คุณต้องเข้าใจก่อนว่า แต่ละอู่นั้นใช้ สีและส่วนผสมอื่นๆต่างกัน แม้แต่ยี่ห้อของสีก็ไม่เหมือนกันสำหรับแต่ละอู่ รวมทั้งศูนย์บริการทั้งหลายด้วย

กระบวนการซ่อมทั้งหมดนั้นจะต้องใช้สี ทินเนอร์ แลคเกอร์+ตัวเร่ง สีโป๊ว สีรองพื้น ซึ่งแต่ละชนิดสามารถเลือกใช้ต่างยี่ห้อกันได้ แต่ต้องอยู่ในเกรดเดียวกัน เช่นถ้าเป็นระบบแห้งช้า 2K เขาก็จะใช้ทินเนอร์ สีพื้น แลคเกอร์ เป็นระบบแห้งช้าทั้งหมด ใช้มั่วหรือลักไก่ไม่ได้ อย่างที่เห็นโฆษณากันว่า "สีแห้งช้าทั้งระบบ" คือความหมายนี้ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องใช้ยี่ห้อเดียวกันทั้งหมด

เช่นถ้าใช้สีระบบแห้งช้า 2K ยี่ห้อ Dupont ก็จะมาเป็นชุดพร้อมกันหมด ทั้งแลคเกอร์ และตัวเร่ง(Hardener) ส่วนทินเนอร์ หรือสีพื้นจะไปใช้ยี่ห้ออื่นที่ไม่ใช่ Dupont ก็ได้ แต่ต้องอยู่ในเกรดสำหรับระบบแห้งช้า ไม่งั้นพัง อู่บางแห่งถ้าได้ราคาดี เขาก็จะใช้ยี่ห้อเดียวกันทั้งหมด หรือบริษัทประกันภัยบางแห่ง บังคับเลยว่าต้องใช้ยี่ห้อเดียวกันทั้งหมด (อาจเพราะเขาเป็นตัวแทนจำหน่ายสียี่ห้อนั้นก็ได้) แต่ส่วนใหญ่แล้วก็จะใช้วิธีนี้คือ เฉพาะสี แลคเกอร์+ตัวเร่ง ทินเนอร์ จะใช้ยี่ห้อเดียวกันทั้งหมด

อู่บางแห่งใช้สีเป็นระบบแห้งช้า แต่ใช้แลคเกอร์กึ่งแห้งช้าเคลือบทับหน้า ก็ได้ผลดีเช่นกันให้ความเงางาม แต่ความคงทน จะสู้ใช้แลคเกอร์แห้งช้าจริงๆ ไม่ได้ แต่จะทำงานได้เร็วขึ้นและต้นทุนถูกลง อย่างไรก็ตามอย่ายึดติดกับยี่ห้อมากนัก ทุกวันนี้เทคโนโลยี่มันทันกันหมด

สีแห้งช้าดีจริงหรือไม่ ? สีแห้งช้าที่พ่นออกมาจากโรงงานนั้น ถ้าเป็นรถญี่ปุ่นจะต่างกับรถทางยุโรป ใช้กันคนละยี่ห้อ โดยเฉพาะตัวแลคเกอร์ที่่ใช้เคลือบทับหน้า คุณภาพก็ต้องต่างกันเป็นธรรมดา ถ้าเราจะพ่นสีรถยนต์ใหม่ทั้งคัน ถ้าจะเลือกใช้สีระบบแห้งช้า ก็ต้องดูว่าคุ้มหรือไม่ เพราะราคาจะแพงกว่าเท่าตัว แต่คุณภาพความคงทนนั้นไม่ต้องพูดถึง เพราะหน้ามันแข็งมากๆ กลัวว่ารถจะผุก่อนสีจะพัง ถ้ารถของเราราคาไม่แพงนัก และต้องควักกระเป๋าจ่ายเอง ก็คิดดูให้ดีก่อน แต่ถ้าเป็นบริษัทประกันภัยจ่ายก็ว่ากันอีกที

No comments: